article_writer

55 3

หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้

คุณคงจะเคยมีอาการต่าง ๆ ดังนี้ จาม คันจมูก ตา หูและลำคอ มีน้ำมูกใส ๆ ไหลออกมาบ่อย ๆ รู้สึกจมูกตัน ตาแดง และมีน้ำตาไหล คุณอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า โรคภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอ อ่อนเพลีย ปวดท้อง ปวดศรีษะ และปวดบริเวณคาง และหน้าผาก ชนิดของโรคภูมิแพ้ เราสามารถแบ่งชนิดของโรคภูมิแพ้ออกได้เป็น 2 ชนิดคือ           โรคภูมิแพ้ชนิดเป็นตามฤดูกาล จะมีอาการเป็นช่วง ๆ ของปี ขึ้นอยู่กับช่วงที่สารก่อภูมิแพ้ถูกผลิตออกมา สารก่อภูมิแพ้ในกรณีนี้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฟางข้างต่าง ๆโรคภูมิแพ้ชนิดเป็นตลอดปี คนไข้จะมีอาการตลอดทั้งปี เนื่องจากคนไข้จะสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ตลอดเวลา ทำให้มีอาการแบบเรื้อรัง สารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้คนแพ้กันมาก คือ ไรฝุ่นในบ้าน เชื้อรา ขนสัตว์เลี้ยง เป็นต้น การดูแลรักษาภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยควรพยายามหลีกเลี่ยงสารที่ทราบว่าตนเองแพ้ เพื่อที่จะให้อาการเกิดน้อยลง และใช้ยาน้อยลงด้วยควรมีสิ่งของเครื่องเรือนให้น้อยที่สุดเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อที่จะได้ทำความสะอาด และกำจัดฝุ่นได้ง่าย พรม และผ้าม่านไม่ควรใช้เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น …

หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ Read More »

54 3

หัวใจ ของนักกีฬา และผู้ออกกำลังกายประจำ

“หัวใจ” ของนักกีฬา และผู้ออกกำลังกายประจำในปัจจุบัน มีผู้ที่เจ็บป่วยจากโรคหัวใจมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรค่อนข้างมาก และมักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ในกลุ่มของโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุ ท่านผู้อ่านลองนึกย้อนถึงบุคคลในครอบครัว บุคคลในเครือญาติ ในที่ทำงานหรือในตำบล / อำเภอ ที่ท่านอาศัยอยู่ว่ามีใครบ้างที่ต้องรับประทานยาเกี่ยวกับภาวะไขมันสูง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีใครบ้างที่ต้องไปรับการรักษาแบบคนไข้ใน หรือห้องไอซียู ที่ผมขึ้นต้นไว้อย่างนี้ก็เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้หันมาลองประเมินดูว่า คนเป็นโรคหัวใจ และเสียชีวิตมีมากเพียงใด และในที่สุดท่านจะได้หันมาให้ความสนใจตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลหัวใจของตนเอง ออกกำลังกายทำให้แข็งแรง           พวกเราทุกคนจะได้รับการบอกกล่าวอยู่เสมอว่า ทุกคนควรจะต้องออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 -4 วัน เป็นอย่างต่ำ แต่ละครั้งให้ใช้เวลาออกกำลังกายมากกว่า 30 นาที ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง ซึ่งคำว่า “แข็งแรง” คงหมายถึงการไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เหนื่อยง่าย เวลาทำงานที่ต้องออกแรงมากขึ้น หรือทำงานหนักๆ จนทำให้เหนื่อยหอบ แต่ก็หายเหนื่อยหอบได้รวดเร็วเหมือนปกติทั่วไป การออกกำลังกาย และเล่นกีฬามีผลต่อหัวใจอย่างไร?           อวัยวะที่มีส่วนสำคัญ และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลง หากท่านออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็คือหัวใจของเรานั่นเอง การออกกำลังกายโดยการใช้กำลังแขนกำลังขามากขึ้น …

หัวใจ ของนักกีฬา และผู้ออกกำลังกายประจำ Read More »

53 2

หวัดโรคสุดฮิตตลอดปี

เวลาเราเป็นหวัด แพทย์หมายถึงคนไข้มีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน คือ ส่วนอยู่เหนือเส้นเสียงในหลอดลมขึ้นมา จนถึงช่องคอและจมูก ซึ่งสามารถแบ่งอาการไล่ตามอวัยวะที่เกี่ยวข้อง เช่น ในจมูก จะมีน้ำมูก คัดจมูก แสบจมูก จาม ในคอ จะมีเจ็บคอคันคอ, ระคายคอ, ไอ, คอแดง, ต่อมทอนซิลโต แดง เป็นหนองและในหลอดลมส่วนต้น มีเสมหะ เสียงแหบ เสียงเปลี่ยน โดยอาจมีอาการร่วมอื่นๆนอกเหนือจากอาการของทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว คลื่นไส้ ปวดหัว มึนหัว ปวดตัว เบื่ออาหาร ท้องเสีย หรือมีผื่นก็ยังเป็นได้ พญ. ศาธิณี ลิมปิสุข แพทย์เวชศาสตร์ทั่วไป รพ. กรุงเทพ ให้ข้อมูลว่าเมื่อเป็นหวัด แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันอาจมีแค่เพียงบางอาการ แต่สาเหตุการเกิดโรคหวัดมาจากสาเหตุเดียวกัน คือ การติดเชื้อใน ทางเดินหายใจส่วนบน ดังนั้นเมื่อเป็นหวัดสิ่งที่ต้องทำก็คือ สังเกตตัวเองว่า หวัด ในครั้งนี้ เป็นหวัดไวรัส หรือหวัดแบคทีเรีย เพราะมีการรักษาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่พบว่ามักจะเป็นหวัดไวรัส คือ มีอาการเจ็บๆคอนิดหน่อย มีน้ำมูกนิดหน่อย ไอจามนิดหน่อย เพลียๆนิดหน่อย 2-3 …

หวัดโรคสุดฮิตตลอดปี Read More »

52 3

หวัดเรื้อรังกับการเสริมจมูก

ผู้ป่วยที่มีปัญหาหวัดเรื้อรัง เช่นน้ำมูกไหลบ่อยๆ มีเสมหะไหลลงคอ เจ็บคอเป็นๆ หายๆ มีเสียงขึ้นจมูกมักได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภูมิแพ้ ทางเดินหายใจส่วนต้นอักเสบติดเชื้อจมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ เป็นต้นผู้ป่วยมักมีคำถามว่าแท่งซิลิโคนที่เสริมจมูกอยู่นั้นเป็นสาเหตุทำให้เป็นหวัดบ่อยๆหรือไม่จำเป็นต้องเอาแท่งซิลิโคนออกหรือไม่ถึงจะหายหวัด           ภูมิแพ้นั้นอาการคือ เยื่อบุในทางเดินหายใจ (เช่น จมูก) บวม มีน้ำมูก คัน จาม คอหรือไซนัสอักเสบ คือเยื่อบุในอวัยวะนั้นๆ อักเสบติดเชื้อ อาจมีบวม แดง เจ็บ และเกิดน้ำมูกเสมหะขึ้นมาได้           แต่การเสริมดั้งจมูกด้วยแท่งซิลิโคนนั้นเป็นการวางแท่งซิลิโคนไว้ในชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างเนื้อ และผิวหนังของจมูกกับกระดูกดั้งจมูกซึ่งจะไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อเยื่อบุทางเดินหายใจแต่อย่างใด นั่นคือไม่จำเป็นต้องนำแท่งซิลิโคนออกจากจมูกเมื่อเกิดภาวะหวัดเรื้อรัง           หากว่าร่างกายต่อต้านแท่งซิลิโคนนั้นแล้ว ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่เสริมซิลิโคนเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อขึ้นมาการอักเสบอาจลุกลามมาที่โพรงจมูก ทำให้ปวดบวม คัดจมูก หายใจไม่โล่งได้ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องกินยาแก้อักเสบและอาจต้องนำเอาซิลิโคนออกจากจมูกผู้ป่วยค่ะ แพทย์หญิง จิราวดี จัตุทะศรีหูคอจมูกผู้ประพันธ์

51 3

หลักการปฏิบัติของผู้สูงอายุ เพื่อการมีสุขภาพดี 10 อ.

1.อาหารดี กินอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว2.อนามัย หมั่นดูแลสุขภาพปากและฟันตนเองอย่างสม่ำเสมอ3.ออกกำลังกาย ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน (วันละ 20 นาที อย่างต่อเนื่อง)4.อุจจาระ ถ่ายอุจจาระทุกวัน5.อากาศดี อยู่ในที่ร่มรื่น อากาศสดชื่นถ่ายเทได้สะดวก6.อุบัติเหตุ ระมัดระวังเกี่ยวกับอุบัติเหตุให้มากขึ้น7.อารมณ์ ทำจิตใจให้สบาย แจ่มใส ไม่เครียด8.อดิเรก หางานอดิเรกทำ9.อบอุ่น สร้างความผูกพันกับลูกหลาน ตั้งแต่ลูกหลานยังอยู่ในวัยเด็ก10.อนาคต เตรียมตัวเตรียมใจรับวัยชรา ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

50 2

หยุดออกกำลังกายทันทีในกรณีใดบ้าง?

ไม่ว่าท่าน จะมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงเพียงใด หรือท่านเล่นกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่งติดต่อกันมาเป็นเวลานาน โดยไม่มีปัญหาอะไรเลยก็ตาม ท่านจะต้องทราบอาการที่อาจเกิดขึ้น กับตัวท่านเมื่ออยู่ในสภาวะที่ส่อแสดงถึงภยันตราย ที่อาจจะร้ายแรงและกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ซึ่งจะพบได้ในคนอายุน้อยกว่าที่พบในสมัยก่อน มากขึ้นเรื่อยๆ           ดังนั้น นอกเหนือจากการบาดเจ็บ ซึ่งท่านต้องหยุดโดยปริยายอยู่แล้ว อาการต่างๆ ต่อไปนี้ ถ้าหากเกิดกับตัวท่านขณะออกกำลังกาย ขอให้ท่านหยุดทันที – อาการเจ็บแน่นหน้าอก– อาการปวดบริเวณคอ ขากรรไกร และปวดร้าว ลงต้นแขนซ้ายด้านติดรักแร้– อาการใจสั่น– อาการมึนหรือปวดศีรษะ– อาการคลื่นไส้ อาเจียน– สายตาพร่ามัว– อึดอัดหายใจไม่ออก– หน้ามืดจะเป็นลม           อาการดังกล่าวข้างต้น แม้นว่าจะไม่รุนแรงก็ตาม แต่ท่านควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุที่แท้จริงเสียก่อนว่า ไม่มีปัญหาทางสุขภาพกายที่ร้ายแรงใดๆ ก่อนที่จะกลับมาออกกำลังกายต่อไป ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

49 1

หน้าที่ของไต

ไตเป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่วเหลือง ขนาดเท่ากำปั้น คนปกติมีไต 2 ข้างวางอยู่บริเวณกลางหลังข้างละ 1 อัน โดยตั้งอยู่บริเวณด้านหลังใต้ต่อกระดูกชายโครง บริเวณบั้นเอว ไตเปรียบเสมือนเครื่องกรองชนิดพิเศษที่มีความมหัศจรรย์และมีจำเป็นอย่างมากในการดำรงชีวิตแต่ ละวันจะมีเลือดประมาณ 200 หน่วยกรองผ่านเนื้อไต ขับออกเป็นของเสียในรูปน้ำปัสสาวะ 2 หน่วย ลงสู่ท่อไตและกระเพาะปัสสาวะ เพื่อถ่ายปัสสาวะออกนอกร่างกายไตทำหน้าที่กลั่นกรองน้ำ เกลือแร่ และสารเคมีส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการ พร้อมกับทำการคัดหลั่งของเสียออกจากร่างกาย           หน้าที่สำคัญของไต คือ การสร้างปัสสาวะซึ่งจะช่วยขับของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญสารอาหารต่างๆ และช่วยในการรักษาความปกติของน้ำและเกลือแร่ของร่างกายนอกจากนั้นไตยังมีหน้าที่ในการสร้างสารที่ควบคุมความดันโลหิต และสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้นเมื่อไตทำงานน้อยลงมักเกิดปัญหาความดันโลหิตสูงและโลหิตจางร่วมด้วย ขับถ่ายของเสีย           ไตทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีนออกจากร่างกาย ของเสียประเภทนี้ ได้แก่ ยูเรีย ครีอะตินีน กรดยูริก และสารประกอบไนโตรเจนอื่นๆ อาหารประเภทโปรตีนมีมากในเนื้อสัตว์และอาหารจำพวกถั่ว ซึ่งหากของเสียจากอาหารประเภทโปรตีนเหล่านี้คั่งค้างอยู่ในร่างกายมากๆ จะทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ซึ่งทางการแพทย์เรียกภาวะดังกล่าวว่า ยูรีเมีย (uremia) นอกจากนี้ไตยังทำหน้าที่กำจัดสารพิษ สารเคมี รวมทั้งขับถ่ายยาต่างๆออกจากร่างกายอีกด้วย ยูเรีย           ยูเรียเป็นโปรตีนที่ถูกตัดหมู่ amino ออก (-NH2) แล้ว เปลี่ยนเป็นยูเรีย ส่งไปกรองที่ไตกระบวนการเปลี่ยนให้เป็นยูเรียเกิดขึ้นที่ตับ ยูเรียมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานของหน่วยไต เรียกว่า …

หน้าที่ของไต Read More »

48 3

หนังตาผิดปกติ

หนังตาผิดปกติ เปลือกตาหรือหนังตาทำหน้าที่ปิดตา เพื่อป้องกันผิวกระจกตาดำ และเยื่อบุตา ถ้ามีความผิดปกติของหนังตา กระจกตาดำ และเยื่อบุตาอาจจะแห้งหรือเป็นแผล การรักษาด้วยยาหยอดหรือป้ายตาจะป้องกันภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้ ส่วนการรักษาด้วยการผ่าตัดหนังตาเป็นการรักษาเสริมของการใช้ยา หรืออาจจะเป็นการรักษาแก้ไขให้หายขาดได้ ส่วนประกอบภายนอกตา ได้แก่ คิ้ว ทำหน้าที่ป้องกันมิให้เหงื่อไหลเข้าตา ขนตา ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าตา หนังตา ทำหน้าที่ช่วยปิดเปิดเพื่อรับแสง และควบคุมปริมาณของแสงสู่นัยน์ตา ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับตาและหลับตา เพื่อให้นัยน์ตาได้พักผ่อน นอกจากนี้การกระพริบตายังจะช่วยรักษาให้นัยน์ตาชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยปกติคนเรากระพริบตา 25 ครั้งต่อนาที ต่อมน้ำตา เป็นต่อมเล็กๆ อยู่ใต้หางคิ้ว ต่อมนี้จะขับน้ำตา มาหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา น้ำตาส่วนใหญ่จะระเหยไปในอากาศ ส่วนที่เหลือระบายออกที่รูระบายน้ำตา ซึ่งอยู่ที่หัวตา รูนี้เชื่อมกับท่อน้ำตาที่ต่อไปถึงในจมูก ถ้าต่อมน้ำตาขับน้ำตาออกมามาก เช่นเมื่อร้องไห้ น้ำตาจะถูกระบายออกที่รูระบายน้ำตา และเข้าไปในจมูก ทำให้คัดจมูกได้ ความผิดปกติที่หนังตา           โดยปกติแล้วเราจะพบความผิดปกติที่หนังตาน้อยมาก แต่ที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ แผลหนูแทะ เป็นมะเร็งที่เกิดจากชั้นตาลึกของผิวหนังของตา ส่วนใหญ่จะพบที่หนังตาล่าง มักพบในผู้ที่ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว โดยเฉพาะพวกที่ทำงานกลางแจ้ง โดยเริ่มมีแผลขนาดเล็กๆ ไม่เจ็บไม่ปวด ตรงกลางแผลจะบุ๋ม มีเลือดหรือน้ำเหลืองขังอยู่ ขอบแผลจะนูนสูงกว่าบริเวณใกล้เคียง แผลพวกนี้ไม่ยอมหาย …

หนังตาผิดปกติ Read More »

47 3

สุรา…ผลร้ายต่อร่างกาย

ในปัจจุบันปัญหาที่ร้ายแรง และแผ่ขยายไปทั่วในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือผลของการดื่มเหล้าหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ บรั่นดี เบียร์หรือไวน์ก็ตาม ผู้ที่ดื่มในปริมาณไม่มากแต่ดื่มอย่างสม่ำเสมอจะมีแนวโน้มที่คอจะแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ดื่มในปริมาณที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะไม่เคยเมาเลยก็ตามแต่ยิ่งจำนวนแอลกอฮอล์มากขึ้นผลที่ตามมาก็คือการทำร้ายสุขภาพไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง ระบบประสาท กระเพาะอาหารและตับก็ตามล้วนได้รับผลภัยจากแอลกอฮอล์ได้ทั้งสิ้นรวมทั้งโอกาสนี้จะเกิดมะเร็งในช่องปาก ลำคอกล่องเสียงและหลอดอาหารมีได้สูงกว่าเช่นเดียวกัน เพื่อให้ท่านที่สนใจหัวข้อเรื่องนี้ทราบว่า อวัยวะต่าง ๆของร่างกายได้รับผลกระทบอย่างไรจากการดื่มเหล้า เบียร์ หรือไวน์ทางศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ขอชี้แจงให้ท่านได้ทราบดังนี้           1.ผลต่อหัวใจ พบว่าการดื่มในปริมาณที่มากจะทำให้มีความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่แข็งแรง เกิดหัวใจวายได้ง่าย          2.ผลต่อตับ พบว่าการดื่มจะทำให้เกิดโรคตับแข็งได้ตับที่ถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์จะไม่สามารถทำหน้าที่ที่จำเป็นได้ไม่ว่าจะเป็นกรรมวิธีในการย่อยสลายสารอาหารต่าง ๆหรือการเปลี่ยนแปลงของยาที่รับประทานเข้าไป บางรายอาจมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง มักอาเจียนเป็นเลือด          3.ผลต่อผิวหน้า แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ผิวหน้าจะเห็นเป็นสีแดงเรื่อ ๆมีผลทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกไปบางส่วนจากทางผิวหน้าจนบางครั้งอาจเกิดอาการหนาวจนสั่น หรือเกิดโรคปอดบวมได้ง่ายในฤดูหนาว          4.ผลต่อสมอง บางคนเชื่อว่าทานเหล้านิดหน่อยจะช่วยกระตุ้นสมองให้กระฉับกระเฉงแต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่เช่นนั้น แอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์กดการทำงานของสมองถ้าดื่มมาก ๆ เข้า จะทำให้ความจำเสื่อม การตัดสินใจไม่เหมาะสม สมาธิเสียไปโกรธง่ายการพูดจะช้าลง สายตาพร่ามัวและการทรงตัวเสียไป          5.ผลต่อกระเพาะอาหาร มีผลทำให้กระเพาะอาหารอักเสบอย่างฉับไวทันทีภายหลังดื่มในปริมาณมากซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหารได้          6.ผลต่อระบบสืบพันธุ์ ในเพศชายอาจเกิดการเลื่อมสมรรถภาพทางเพศ ในผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีผลร้ายต่อทารกทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ผู้ประพันธ์

46 3

สุขอนามัยกับการล้างมือ

ล้างมือบ่อยครั้ง หยุดยั้งเชื้อโรค มือนำเชื้อโรคอะไรได้บ้าง โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด โดยติดต่อผ่านการหายใจเอา เชื้อโรคเข้าไป และติดต่อได้จากการที่มือสัมผัสกับสิ่งของ เครื่องใช้ หรือสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วย (น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เลือด) โรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคพยาธิชนิดต่างๆ การติดต่อเกิดจากการที่มือปนเปื้อนเชื้อเหล่านั้น แล้วหยิบจับอาหารรับประทาน โรคติดต่อจากการสัมผัสได้โดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเชื้อรา แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เริม การติดต่อ เกิดจากมือไปสัมผัสแผล ฝี หนอง โดยตรง แล้วมาสัมผัสกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย โรคติดต่อที่รุนแรง เช่น โรคไข้หวัดมรณะ (SARS) โรคไข้หวัดนก การติดต่อเกิดจากการรับ เชื้อทางระบบทางเดินหายใจ หรือมือไปสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งต่างๆ (น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เลือด) จากสัตว์ปีกที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนก การล้างมือสำคัญอย่างไร …

สุขอนามัยกับการล้างมือ Read More »

45 3

สุขภาพผู้หญิง

“เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก” วลี ยอดฮิต จะไม่จริงอีกต่อไป เพียงแค่คุณรู้จักการดูแลตัวเองที่ถูกวิธีเท่านั้น เราก็จะเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพดีและมีความสุขได้ไม่ยากลำบากอะไรเลยเนื่องจากผู้หญิงมีความแตกต่างจากเพศชายอยู่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของ ร่างกาย ฮอร์โมนของระบบสืบพันธุ์ ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลให้ผู้หญิงมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากเพศชาย และในแต่ละช่วงอายุของผู้หญิงก็จะมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันไป เมื่อกล่าวถึงปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยกลางคน หรือช่วงอายุ 45-60 ปี มีดังนี้           1.ภาวะวัยทอง (Menopause) อายุเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วโลกจะเริ่มเข้าสู่วัยทองเมื่ออายุ 45-55 ปี ส่วนในผู้หญิงไทยนั้นจะอยู่ในช่วงอายุ 45-50 ปี การเข้าสู่วัยทองนั้นสังเกตได้จากประจำเดือนขาดต่อเนื่องกัน 12 เดือน ซึ่งเป็นผลจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ที่สร้างจากรังไข่นั้นลดลง ผลของภาวะวัยทองนั้นมีทั้งต่อร่างกายและจิตใจของผู้หญิง ผลทางร่างกายที่เห็นได้ชัดเจนคือภาวะกระดูกพรุน ซึ่งเกิดความเสี่ยงที่กระดูกจะหักง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสการเกิดโรคทางหลอดเลือดสูงขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเส้นเลือดสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดสมองตีบ เป็นต้น อาการทางกายอื่นๆที่พบได้ เช่น อาการร้อนวูบวาบตามตัว เหงื่อออกตอนกลางคืน ปัสสาวะบ่อย มีอาการเจ็บในช่องคลอดขณะร่วมเพศ ส่วนผลต่อทางจิตใจนั้นก็เช่นทำให้หงุดหงิดง่าย มีอาการเครียดกังวลง่ายขึ้น          2.โรคมะเร็ง มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิง รองลงมาได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งมดลูก การตรวจร่างกายประจำปีจึงเป็นส่วนสำคัญในการตรวจค้นหาโรคมะเร็งแทนการรอให้ มีอาการของโรคแสดงออกมา เนื่องจากระยะของโรคนั้นมีผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์มีการตรวจค้นหามะเร็งได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น …

สุขภาพผู้หญิง Read More »

44 3

สุขภาพตามระบบ :: ระบบสืบพันธุ์เพศชาย

ต่อมลูกหมากอักเสบ (prostatitis) เป็นการอักเสบ หรือการระคายเคืองของต่อมลูกหมาก พบในเพศชายทุกอายุ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยขัดต้องเบ่ง บางครั้งมีอาการปวดเอว ปวดหลัง และปวดท้องน้อยร่วมด้วย ต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากโตพบได้ในเพศชายอายุตั้งแต่ 40 ปี และจะยิ่งพบมากขึ้นตามอายุ ประมาณว่าเมื่อถึงอายุ 80 ปี ร้อยละ 80 จะเป็นโรคต่อมลูกหมากโต โดยทั่วไปถึงแม้ว่าต่อมลูกหมากจะโตขึ้น จะพบว่าร้อยละ 40-50 ของผู้ป่วยเท่านั้นที่จะมีอาการของโรคนี้ ขนาดอวัยวะเพศชาย องคชาตหรือลึงค์เป็นอวัยวะเพศชายที่ยื่นยาวออกมาจากร่างกาย ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของถุงอัณฑะ ภายนอกปกคลุมด้วยผิวหนัง ภายในเป็นกล้ามเนื้อซึ่งมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ซึ่งจะมีท่อปัสสาวะอยู่โดยตลอดและมีช่องเล็กๆ เปิดอยู่ที่ตอนปลาย โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร ? การสำรวจในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2542 ในชายไทยทั่วประเทศจำนวน 1,250 รายพบว่า มีชายไทยเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศร้อยละ 37.5 โดยมีอาการตั้งแต่น้อยๆ คือ ร่วมเพศไม่สำเร็จแค่บางครั้งจนถึงไม่สามารถที่จะร่วมเพศได้เลย อุต๊ะ ผู้ชายวัยทอง ผู้ชายทั้งหลายจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทำง่าย ๆ โดยการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอโดย การใช้ถุงยางอนามัย (ชาย) การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกชนิดรวมทั้งการติดเชื้อเอดส์

43 3

สุขภาพกายดี : สุขภาพจิตดี

สุขภาพจิตที่ดีของคนๆ หนึ่ง จะต้องมีรากฐานมาจากการที่คนๆ นั้นมีสุขภาพกายที่ดีมาก่อน คำกล่าวเหล่านี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจของมนุษย์ทุกคนให้พยายามปฏิบัติตนให้มีสุขภาพกายที่ดี โดยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์พอดี ออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการบริโภคสารที่มีอันตรายต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็คร่างกายตามระยะเวลาที่เหมาะสม ถ้าหากการะทำเช่นนี้แล้ว สุขภาพกายของท่านคงจะอยู่ในขึ้นดีถึงดีมากอย่างแน่นอน เพราะหากผู้ใดมีสุขภาพกายที่ไม่ดี มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งจำเป็นต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาเป็นประจำ สุขภาพจิตของบุคคลผู้นี้คงไม่สมบูรณ์เต็มที่เหมือนคนสุขภาพกายแข็งแรงเป็นแน่ เพราะจิตใจคงว้าวุ่นหวั่นวิตก การบีบคั้นจากสิ่งแวดล้อมที่มีเวลาน้อยอยู่แล้วในการทำงานและพักผ่อน แต่กลับ ต้องมาใช้เวลากับการตรวจรักษาสุขภาพกายที่มีปัญหา ดังนั้นท่านต้องให้ความสำคัญต่อสุขภาพกายอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ภายใต้ความตั้งใจจริงของท่านอย่างแน่นอน ส่วนสุขภาพจิตที่ดีนั้น ท่านสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้โดย           ท่านต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ต่างๆ เช่น โกรธ เกลียด วิตกกังวล ต้องมีความอดทนต่อสิ่งที่ไม่สมหวัง มีความเชื่อมั่นว่าตนเองจะสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ท่านต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อผู้อื่น มองโลกในแง่ดี อยากเป็นเพื่อนที่ดี เป็นผู้ร่วมงานที่ดีกับคนอื่นๆ ให้ความรักความเมตตา และให้อภัยผู้อื่น หากเกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน          ท่านต้องสามารถเผชิญกับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวท่านให้ได้ ด้วยความรับผิด ชอบที่มีอยู่ ความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา หากได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ยังแก้ปัญหาไม่ได้ การปรึกษาหารือกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา …

สุขภาพกายดี : สุขภาพจิตดี Read More »

42 3

สิ่งที่ควรรู้เมื่อน้ำท่วม (ตอนที่ 1)

ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2554 มีฝนตกหนักเกือบทุกวัน ทำให้ในหลายพื้นที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง อีกทั้งน้ำที่เอ่อท่วมจากลำน้ำ น้ำป่าไหลหลาก จนเขื่อนกั้นน้ำหลายแห่งต้องพังทลาย จนเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่สร้างความเสียหายให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แถบภาคเหนือ ภาคอิสาน และภาคกลาง หลายคนต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำมาหากิน มีการขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ยิ่งกว่านั้นความแรงของกระแสน้ำในครั้งนี้ยังทำให้ถนน และสะพานหลายแห่งเสียหายชำรุดจนไม่สามารถใช้การได้ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมากในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 มีพี่น้องประชาชนเดือดร้อนประมาณ 8.2 ล้านคน เสียชีวิต 283 ราย สูญหายอีก 2 ราย กระจายในพื้นที่ 600 อำเภอ 61 จังหวัดทั่วประเทศไทย ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันที่ดีเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรมีการเตรียมพร้อมและตื่นตัวอยู่ตลอด ตรวจสอบข้อมูลให้ทันสถานการณ์อยู่เสมอ จัดเตรียมอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็นเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป น้ำสะอาด และอุปกรณ์สื่อสารในกรณีฉุกเฉินเพื่อร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที          ทางศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นต่อการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม และแนวทางในการดูแลตัวเองเบื้องต้นกรณีที่ต้องเจอปัญหาน้ำท่วมสำหรับพี่น้องประชาชน ซึ่งประกอบ ไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้           1. ควรจะต้องเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันปัญหาที่มากับน้ำท่วมอย่างไร          2. …

สิ่งที่ควรรู้เมื่อน้ำท่วม (ตอนที่ 1) Read More »

41 3

สิวในหู

บางท่านอาจเคยรู้สึกเจ็บๆ คันๆ ที่ใบหูหรือรูหู พอเอานิ้วแตะดูก็รู้สึกว่ามีตุ่มเล็กๆ ขึ้นมา บางครั้งเจ็บน้อย บางครั้งเจ็บมากใบหูของคนเราจะมีผิวหนังห่อหุ้มอยู่ที่ชั้นนอกสุด ซึ่งจะประกอบไปด้วยรูขุมขน ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันส่วนในรูหูนั้นก็จะบุไปด้วยผิวหนังเช่นกันแต่มีความพิเศษตรงที่บริเวณรูเปิดของรูหูนั้นจะมีรูขุมขนหนาแน่นกว่าบริเวณอื่นของรูหูทำให้เวลาที่เรามองเข้าไปในรูหูจะเห็นขนเส้นเล็กๆปริมาณมากที่รูเปิดของรูหู ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น, แมลงเข้าไปในรูหูได้โดยง่ายนอกจากนั้นบริเวณปากรูจะมีต่อมไขมันค่อนข้างหนาแน่นเป็นต่อมไขมันพิเศษที่ทำหน้าที่สร้างขี้หูนั่นเองเมื่อมีผิวหนัง           ก็มีโอกาสที่จะเป็นสิวได้ ถ้าต่อมเหล่านี้มีการอุดตัน หรือมีเชื้อโรค เกิดการอักเสบขึ้นก็จะเกิดสิวขึ้นมาได้ บางครั้งเป็นเพียงสิวอุดตันผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามีตุ่มเล็กๆ หรือรู้สึกเจ็บที่บริเวณที่อุดตันได้ แต่บางครั้งเป็นสิวอักเสบอาจมีหนองร่วมด้วยก็จะรู้สึกเจ็บมากขึ้น กรณีที่รากขนอักเสบ จะมีการบวมแดงเจ็บที่บริเวณรากขน รวมทั้งอาจมีหนองร่วมด้วยได้เช่นกัน การอักเสบเหล่านี้อาจลุกลามขยายขนาดและพื้นที่ได้ เกิดหนองปริมาณที่มากขึ้นจนกลายเป็นฝี ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บมากที่บริเวณอักเสบ อาจมีไข้การได้ยินลดลง ปวดมากร้าวไปที่ขมับและอาจมีเวียนศีรษะร่วมด้วย (การรักษาเหล่านี้จะพบว่าเป็นรุนแรงมากขึ้นได้โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ เช่น เบาหวาน, มะเร็ง, ได้ยากดภูมิคุ้มกัน, โรคเอดส์ เป็นต้น)การอักเสบเหล่านี้พบได้บ่อยที่บริเวณรูเปิดของรูหูและบางครั้งอาจพบที่หน้าต่อใบหูและหลังต่อใบหู ได้เช่นกัน การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและขนาดของการอักเสบ มีตั้งแต่ป้ายยา, รับประทานยา และเจาะระบายเอาหนองออกมา แพทย์หญิง จิราวดี จัตุทะศรีหูคอจมูกผู้ประพันธ์

Scroll to Top