Classifying simple diseases Part 2

จากตอนที่แล้ว ที่เล่าถึงการวิจัยร่วมกันระหว่าง UM กับ ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ในเรื่องการแยกว่าโรคใดควรจะถูกเรียกว่าเป็น simple disease โดยใช้ค่า RW เป็นตัวแบ่งนั้น ในตอนนี้จะเล่าให้ทราบว่าทำไมค่า RW = 0.4 จึงจะให้ผลดีที่สุด

RW = 0.4 สามารถจำแนกโรคได้ 27 ชื่อจากรายชื่อโรค 31 รายชื่อ คือจำแนกได้ 87% จากทั้งหมด

RW = 0.3 แยกได้ 71% , RW = 0.8 แยกได้ 100% ตรงนี้บางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ใช้ RW = 0.8 เลย

เหตุผลคือ การวินิจฉัยตอนต้นที่ว่าเป็น Simple disease นั้น หากมีโรคหรือภาวะแทรกซ้อนก็จะไม่ใช่ Simple disease อีกต่อไป

สี่งที่ต้องเป็นห่วงคือการใช้ค่า RW เหล่านี้ จะทำให้พลาดรายที่มี Complications ด้วยหรือไม่ มากน้อยเพียงไร

คณะผู้วิจัยจึงลองใช้ค่าRW เหล่านี้ศึกษาในข้อมูล Closed chart review ที่มีอยู่ ซึ่งเป็น De-identified medical records จำนวน 1,558 ราย

ได้ผลการจำลองสถานการณ์ ดังในรูปที่ 1, 2 และ 3 (ขอให้เน้นดูแท่งที่ 3 จากซ้ายมือ)
– เมื่อใช้ RW = 0.3 จะมีผู้ป่วยที่มีค่า RW ต่ำกว่า 0.3 จำนวน 895 ราย มีภาวะแทรกซ้อน 8 ราย จากผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด 202 ราย คิดเป็น 4% หรือ 1/25 ของผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด
– เมื่อใช้ RW = 0.4 จะมีผู้ป่วยที่มีค่า RW ต่ำกว่า 0.4 จำนวน 1,143 ราย มีภาวะแทรกซ้อน 44 ราย จากผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด 202 ราย คิดเป็น 22% หรือคิดเป็น 1/5 ของผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด
– เมื่อใช้ RW = 0.8 จะมีผู้ป่วยที่มีค่า RW ต่ำกว่า 0.8 จำนวน 1,402 ราย มีภาวะแทรกซ้อน 165 ราย จากผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด 202 ราย คิดเป็น 82% หรือคิดเป็น 4/5 ของผู้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งหมด

จะเห็นว่าการใช้ค่าRW = 0.8 แม้จะครอบคลุมภาวะ Simple diseases ได้ดีกว่า แต่ก็นำความเสี่ยงมาด้วย โดยเฉพาะการที่ผู้ป่วยรายนั้นถูกจัดว่าเป็น Simple disease แต่มี Complication การใช้ค่า RW = 0.4 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

research weekly 09 1
Figure 1 Number of cases categorized as simple diseases using RW = 0.3
research weekly 09 2
Figure 2 Number of cases categorized as simple diseases using RW = 0.4
research weekly 09 3
Figure 3 Number of cases categorized as simple diseases using RW = 0.8

ผู้สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากบทความ Rational Classification of Simple Disease Cases in Bangkok Dusit Medical Services Hospitals using Relative Weight and Case Mixed Index ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Bangkok Medical Journal 2019, Volume 15, number 2; September 2019, pages 130 – 139.

Reference : จิณหธาน์ ปัญญาศร ชัยยศ คุณานุสนธิ์

Scroll to Top