อ่านฉลากเครื่องดื่มให้เป็น..เพื่อรู้ปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในนั้นกันดีกว่า

ทุกวันนี้สื่อต่างๆมีแต่หัวข้อที่เกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่บริโภคเข้าไปเป็นจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ ชาเขียวและชาเย็นบรรจุขวด น้ำหวานบรรจุขวด

ทุกวันนี้สื่อต่างๆมีแต่หัวข้อที่เกี่ยวกับ ปริมาณน้ำตาลที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่บริโภคเข้าไปเป็นจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ ชาเขียวและชาเย็นบรรจุขวด น้ำหวานบรรจุขวด รวมถึงเครื่องดื่มวิตามิน ขณะที่เครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น ลาเต้ หรือคาปูชิโน่เย็นก็เต็มไปด้วยน้ำตาล

ปริมาณน้ำตาลอันน่าตกใจ

จากการสำรวจเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลในอาหาร ระหว่างปี 2001-2004 สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐได้สรุปว่าชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยบริโภคน้ำตาล 22 ช้อนชาต่อวัน และปัจจุบันมีการประเมินว่าน่าจะสูงกว่านั้นมาก ขณะที่สถิติล่าสุดปี 2011 ในแคนาดาพบว่าทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่บริโภคน้ำตาลโดยเฉลี่ย 26 ช้อนชาต่อวัน การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอ้วนซึ่งจะนำไปสู่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคอื่นๆตามมาอีกมากมาย

เอาใจใส่ อ่านฉลาก และให้ความสำคัญกับปริมาณน้ำตาล

การอ่านฉลากโภชนาการไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่เราจะนำมาใช้เป็นปริมาตรวัดแบบง่ายๆ ก่อนจะเลือกรับประทานอะไรเข้าไป การแปลงค่าของหน่วยวัดจากกรัมเป็นปริมาณช้อนชาอาจจะทำให้คุณตกตะลึงแทบช็อค กันเลยทีเดียว งั้นเราไปดูกัน..ปริมาตรวัดแบบง่ายๆ : น้ำตาล 4 กรัมจะเท่ากับน้ำตาล 1 ช้อนชา

น้ำอัดลม

ในน้ำอัดลมมีปริมาณน้ำตาลมากเท่าไร? นี่คือฉลากแสดงข้อมูลโภชนาการของโคล่าบรรจุขวดขนาด 591 มล. เรามาคำนวณปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่มยอดนิยมนี้เป็นจำนวนช้อนชากันดี กว่า

  • อ่านฉลากน้ำอัดลม เพื่อบอกปริมาณน้ำตาล
  • อ่านฉลากน้ำอัดลมว่ามีน้ำตาลกี่ช้อน
  • โคล่าขนาด 591 มล. มีปริมาณน้ำตาล 17.5 ช้อนชา
  • ภาพน้ำตาล 17.5 ช้อนชาในชามซีเรียลหรือในชาและกาแฟ น่าจะมากพอที่ทำให้ใครก็ตามรู้สึกคลื่นไส้ แต่นี่คือปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มโคล่าบรรจุขวดขนาด 591 มล.ที่คุณดื่มเข้าไปเพื่อดับกระหาย ส่วนน้ำอัดลมอื่นๆอาจมีปริมาณน้ำตาลที่แตกต่างกันไป และฉันได้พบว่าน้ำขิงบรรจุขวดขนาด 591 มล. ก็มีปริมาณน้ำตาล 54 กรัมต่อขวด หรือ 13.5 ช้อนชา คราวนี้ให้ลองนึกภาพตัวเองกำลังดื่มน้ำตาล 13.5 ช้อนชาดูสิ! สยองไหมล่ะ?
  • อ่านฉลากเครื่องดื่ม เพื่อบอกปริมาณน้ำตาล
  • อ่านฉลากเครื่องดื่มว่ามีน้ำตาลกี่ช้อน
  • น้ำขิงบรรจุขวดขนาด 591 มล. มีปริมาณน้ำตาล 13.5 ช้อนชา
  • ตารางการแปลงน้ำตาลจากมิลลิกรัมในเครื่องดื่มเป็นจำนวนช้อนชา ปริมาณน้ำตาลแบบคร่าวๆที่แปลงเป็นจำนวนช้อนชาในน้ำอัดลมที่มีขายอยู่ทั่วไป

ชาบรรจุขวด

น้ำชามีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะชาเขียวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตามชาเขียวในโฆษณาคือกับดักน้ำตาลของจริง เรามาดูปริมาณน้ำตาลในชาเขียวรสมะนาวกันบ้างดีกว่า

  • อ่านฉลากชาว่ามีน้ำตาลกี่ช้อน
  • ชาเชียวรสมะนาวมีปริมาณน้ำตาล 9 ช้อนชา

เครื่องดื่มวิตามินบรรจุขวด

แม้แต่เครื่องดื่มวิตามินซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการตลาดล่าสุดของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มก็มีปริมาณน้ำตาลมหาศาลเช่นกัน

  • อ่านฉลากเครื่องดื่มวิตามินว่ามีน้ำตาลกี่ช้อน
  • เครื่องดื่มวิตามินขนาด 591 มล. มีปริมาณน้ำตาล 8 ช้อนชา

คนส่วนใหญ่มักถูกอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชักจูงให้เชื่อว่าเครื่องดื่ม ประเภทนี้ดีต่อสุขภาพ พวกเขาจึงบริโภคเครื่องดื่มวิตามินเหล่านี้วันละ 2-3 ขวด หรือปริมาณน้ำตาลวันละ 16-24 ช้อนชา หรือสัปดาห์ละ 112-168 ช้อนชานั่นเอง

***คำแนะนำคือเลือกเครื่องดื่มธรรมดาและรับ ประทานวิตามินจากผลไม้สดๆจะดีกว่า ฝานมะนาวหรือส้มและแช่ไว้ในน้ำ จากนั้นแช่เย็นทิ้งไว้ข้ามคืนเพียงเท่านี้คุณก็ได้ความสดชื่นไปตลอดทั้งวัน แล้ว

เครื่องดื่มเกลือแร่

เครื่องดื่มเกลือแร่เป็นเครื่องดื่มประเภทแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อนัก กีฬาฟุตบอลอาชีพ และเพื่อนักกีฬาที่ต้องฝึกซ้อมเป็นเวลานานๆ ได้แก่ กรีฑา ฟุตบอล ปั่นจักรยาน เป็นต้น รวมถึงเพื่อช่วยยืดระยะเวลาในการออกกำลังกายท่ามกลางอากาศร้อน เครื่องดื่มประเภทนี้มีปริมาณน้ำตาลและอิเล็กโทรไลท์สูงมากซึ่งมี ประสิทธิภาพในการคืนความสดชื่นให้กับร่างกาย แต่ไม่ควรดื่มทุกวันเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลที่สูง และนี่คือตัวอย่างของเครื่องดื่มเกลือแร่ยี่ห้อหนึ่งกับปริมาณน้ำตาลที่อยู่ ในขวด

  • อ่านฉลากเครื่องดื่มเกลือแร่ว่ามีน้ำตาลกี่ช้อน
  • เครื่องดื่มเกลือแร่มีปริมาณน้ำตาล 10.5 ช้อนชา
  • ตารางการแปลงน้ำตาลจากมิลลิกรัมในกาแฟรสชาติต่างๆเป็นจำนวนช้อนชา
  • ตารางกาแฟรสชาติต่างๆและปริมาณน้ำตาลที่ใส่ลงไป

น้ำผลไม้

น้ำผลไม้ส่วนมากไม่มีเส้นใยอาหาร แถมมีปริมาณน้ำตาลมากเกินไปและทำให้คุณไม่ได้รับประทานผลไม้ของจริง แม้แต่น้ำผลไม้ที่ทำจากผลไม้แท้ 100% และไม่เติมสารความหวานก็ควรหลีกเลี่ยง น้ำส้มปริมาณ 473 มล.ต้องใช้ส้มประมาณ 8 ผล ซึ่งมากกว่าปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน (วันละ 4 ผล) และร่างกายของคุณก็จะได้รับปริมาณน้ำตาลที่สูงมากในคราวเดียว (เทียบเท่ากับส้ม 8 ผล) ที่สำคัญร่างกายของคุณยังไม่ได้เส้นใยอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว

  • อ่านฉลากน้ำผลไม้ว่ามีน้ำตาลกี่ช้อนรับประทานผลไม้ของจริงดีกว่าการดื่มน้ำผลไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและแทบไม่มีกากใยอาหาร

แล้วเครื่องดื่มสมูธตี้ล่ะ?

เครื่องดื่มสมูธตี้ดีต่อสุขภาพหรือไม่? ผลไม้และเส้นใยอาหารดีต่อสุขภาพของคุณ งั้นคุณควรระวังให้ดี เพราะผลิตภัณฑ์ที่มักเห็นในโฆษณาไม่ได้ผลิตจากผลไม้ทั้งหมดหรอก อันที่จริงคุณควรหลีกเลี่ยงเลยด้วยซ้ำเนื่องจากปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไป

  • ปริมาณน้ำตาลเป็นจำนวนช้อนชาในเครื่องดื่มสมูธตี้
  • ปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มสมูธตี้เฉลี่ยประมาณ 6.5 ช้อนชา

แม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผลไม้สดก็ยังมีปัญหา ผลไม้ 6-12 ผลนั้นมากเกินกว่าปริมาณผลไม้ที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวัน (4 ผล) เครื่องดื่มสมูธตี้บรรจุขวดขนาด 15 ออนซ์ที่เห็นในโฆษณาประกอบไปด้วยมะม่วง 2.5 ผล เชอร์รี่ 15 ผล และแอ็ปเปิ้ล 1.5 ผล ซึ่งเท่ากับว่าเรารับประทานผลไม้มากเกินไป หากคุณต้องการดื่มน้ำสมูธตี้ เราขอแนะนำให้คุณลงมือทำเองด้วยผลไม้ 4 ผลตามที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันผสมกับโยเกิร์ต แต่เชื่อเถอะการผสมเครื่องดื่มสมูธตี้รับประทานเองคือทางเลือกที่ดีที่สุด

ที่มา : https:://www.huffingtonpost.com/steve-hirsch-md/sugars-become-an-expert-s_b_6366152.html

https:://issue247.com/beauty/health/find-sugar-from-nutrition-facts-label/

Scroll to Top