ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง

ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงมีหลายชนิด เช่น เม็ดเลือดแดงขนาดผิดปกติ เม็ดเลือดแดงติดสีผิดปกติ เม็ดเลือดแดงรูปร่างผิดปกติ เม็ดเลือดแดงมีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในเซลล์ และเม็ดเลือดแดงเรียงตัวผิดปกติ

การตรวจรูปร่างลักษณะของเม็ดเลือดแดงโดยกล้องจุลทรรศน์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยในการวินิจฉัยโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี ความผิดปกติบางอย่างอาจจำเพาะเจาะจงสำหรับโรคบางอย่าง ในขณะที่ความผิดปกติบางอย่างอาจไม่จำเพาะเจาะจงแต่อย่างใด จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่นๆ มาประกอบการวินิจฉัยโรค

เม็ดเลือดแดงขนาดผิดปกติ

ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงในด้านขนาด เรียกว่า anisocytosis

  • เม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ เรียกว่า macrocyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวแก่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยมีขนาดประมาณ 9-12 ไมครอน เม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก และโรคตับ ในกรณีของโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดวิตามิน B12 หรือเกิดจากการขาดกรดโฟลิก อาจพบเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นรูปไข่
  • เม็ดเลือดแดงขนาดเล็ก เรียกว่า microcyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวแก่ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ มักพบว่ามีบริเวณติดสีจางกลางเซลล์กว้างกว่า 1/3 ของเซลล์ เม็ดเลือดแดงขนาดเล็กสามารถพบได้ในโรคธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก และในโรคโลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแตก

เม็ดเลือดแดงติดสีผิดปกติ

เม็ดเลือดแดงติดสีน้อยกว่าปกติ เรียกว่า hypochromia เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีบริเวณติดสจางกลาง

เซลล์กว้างกว่า 1/3 ของเซลล์ เนื่องจากปริมาณของฮีโมโกลบินภายในเซลล์ลดลง สามารถพบได้

ในโรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก และโรคโลหิตจางชนิดเรื้อรัง

เม็ดเลือดแดงรูปร่างผิดปกติ

ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงทางด้านรูปร่าง เรียกว่า poikilocytosis สามารถแบ่งออกได้เป็น

  • เม็ดเลือดแดงตัวเล็กกลม เรียกว่า spherocyte เป็นเม็ดเลือดแดงตัวเล็กกว่าปกติ มีลักษณะกลม ติดสีชมพูเข้มทึบทั้งเซลล์ ไม่มีบริเวณติดสีจางกลางเซลล์ เม็ดเลือดแดงตัวเล็กกลมสามารถพบได้ในโรคโลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแตก โรคโลหิตจางที่เกิดในทารกแรกเกิด และโรคโลหิตจางตัวกลมเล็กที่เป็นแต่กำเนิด
  • เม็ดเลือดแดงรูปเป้า เรียกว่า target cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เห็นมีจุดกลมสีชมพู อยู่ตรงกลางคล้ายรูปเป้า สามารถพบได้ในภาวะความผิดปกติของฮีโมโกลบิน และโรคตับ
  • เม็ดเลือดแดงรูปปาก เรียกว่า stomatocyte เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง ที่บริเวณติดสีจางกลางเซลล์มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรืออาจคล้ายรูปปาก ในภาวะปกติบริเวณติดสีจางกลางเซลล์จะมีลักษณะกลม เกิดขึ้นเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีการสูญเสียโครงรูปบนด้านหนึ่งของสบริเวณผิว เม็ดเลือดแดงรูปปากสามารถพบได้ในโรคตับ โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะเสียสมดุลของสารเกลือแร่ และความผิดปกติชนิดที่เป็นมาแต่กำเนิด
  • เม็ดเลือดแดงรูปไข่ เรียกว่า ovalocyte เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะคล้ายรูปไข่ บางเซลล์อาจเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะคล้ายซิการ์ เรียกว่า elliptocytes เซลล์ทั้งสองชนิดนี้สามารถพบได้มากในโรคชนิดเป็นมาแต่กำเนิด นอกจากนี้ยังสามารถพบได้บ้างในภาวะโลหิตจางชนิดต่างๆ
  • เม็ดเลือดแดงรูปหยดน้ำตา เรียกว่า teardrop เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายหยดน้ำตา เม็ดเลือดแดงรูปหยดน้ำตาสามารถพบได้ในภาวะไขกระดูกเป็นพังผืด โรคโลหิตจางขาดวิตามิน B12 โรคของไขกระดูกบางชนิด โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และโรคโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแตก
  • เม็ดเลือดแดงรูปหนามแหลม เรียกว่า burr cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีหนามแหลมกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอบนผิวของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดงรูปหนามแหลมสามารถพบได้ในภาวะไตวายเรื้อรัง ภาวะเสียเลือดเฉียบพลัน มะเร็งกระเพาะอาหาร และโรคขาดเอนไซม์บางชนิด
  • เม็ดเลือดแดงรูปเศษเสี้ยว เรียกว่า schistocyte เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะเป็นเศษชิ้นต่าง ๆ รูปร่างไม่แน่นอน เม็ดเลือดแดงรูปเศษเสี้ยวสามารถพบได้ในภาวะเม็ดเลือดแตกในหลอดเลือดเล็ก แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกรุนแรง และ ภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดชนิดแพร่กระจาย
  • เม็ดเลือดแดงรูปหนามสั้นยาวไม่เท่ากัน เรียกว่า acanthocyte เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีหนามสั้นยาวไม่เท่ากัน และการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ยื่นออกมาจากขอบของเม็ดเลือดแดง นอกจากนั้นยังมีขนาดเล็กกว่าเม็ดเลือดแดงปกติ และไม่เห็นบริเวณติดสีจางกลางเซลล์ สามารถพบได้ในโรคสารไขมันในร่างกายผิดปกติ และโรคตับบางชนิด
  • เม็ดเลือดแดงรูปเคียว เรียกว่า sickle cell เป็นเม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเคียว หรือพระจันทร์เสี้ยว เกิดขึ้นเนื่องจากมีการก่อตัวขึ้นของโพลิเมอร์ของฮีโมโกลบิน เอส เกิดเป็นรูปร่างคล้ายแท่งภายในเม็ดเลือดแดง สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางเม็ดเลือดแดงรูปเคียว โรคฮีโมโกลบิน เอส ซี และโรคฮีโมโกลบิน เอส บี

เม็ดเลือดแดงมีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในเซลล์

การที่พบลักษณะบางอย่างผิดปกภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง เรียกว่า inclusions

  • Basophilic stippling จะพบลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ อาจเล็กหรือใหญ่ ติดสีฟ้า-เทา อยู่ภายในเม็ดเลือดแดง เกิดขึ้นเนื่องจากมีการรวมกลุ่มกันของไรโปโซม สามารถพบได้ในภาวะตะกั่วเป็นพิษ ภาวะการสังเคราะห์ฮีโมโกลบินผิดปกติ โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก
  • Pappenheimer bodies เป็นสิ่งผิดปกติภายในเม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ มักมีหลายเม็ด ติดสีม่วงแดง หากนำเม็ดเลือดแดงนี้ไปย้อมหาเหล็ก จะให้ผลบวก สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางซิเดโรบลาสติก โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะหลังการตัดม้าม และโรคฮีโมโกลบินผิดปกติ
  • Howell-Jolly bodies มีลักษณะเป็นเม็ดกลมติดสีม่วงแดงขนาดค่อนข้างใหญ่ภายในเม็ดเลือดแดง เป็นส่วนที่หลงเหลือของนิวเคลียส สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางเม็ดเลือดแตก ภายหลังการตัดม้าม และโรคโลหิตจางชนิดเมกาโลบลาสติก
  • Cabot rings เป็นเส้นสายใยบาง ๆ ย้อมติดสีม่วงแดง มักมีลักษณะเป็นรูปวงแหวน หรือรูปเลข 8 เชื่อว่าอาจเป็นส่วนของสปินเดิลไฟเบอร์ สามารถพบได้ในโรคโลหิตจางขาดวิตามิน B12 และภาวะตะกั่วเป็นพิษ

เม็ดเลือดแดงเรียงตัวผิดปกติ

  • Rouleaux formation เป็นการที่เม็ดเลือดแดงมาจับซ้อนทับกันเป็นสายยาว เกิดขึ้นเนื่องจากมีปริมาณของโกลบูลินหรือไฟบริโนเจนผิดปกติ โดยมีเพิ่มมากขึ้นในกระแสเลือด สามารถพบได้ในโรคมัลติเปิลมัยอีโลมา และแมโครโกลบูลินนีเมีย
  • Agglutination เป็นการที่เม็ดเลือดแดงมีการจับกลุ่มกัน สามารถพบได้ในภาวะที่มีแอนติบอดีชนิดเย็น และในภาวะเม็ดโลหิตแตกจากโรคออโตอิมมูน
Scroll to Top